จังหวัดอากิตะ
จังหวัดอากิตะ
จังหวัดอากิตะ (ญี่ปุ่น: 秋田県 Akita-ken) เป็นจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภาคโทโฮกุซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น มีเมืองหลวงชื่ออากิตะ
สัญลักษณ์ของจังหวัดอะกิตะ
มาสคอตประจำจังหวัด
ชื่อ สึงิวจิ Sugicchi
ภูมิศาสตร์
จังหวัดอากิตะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮนชูมีอาณาเขตติดกับทะเลญี่ปุ่นทางทิศตะวันตก จังหวัดอาโอโมริทางทิศเหนือ จังหวัดอิวาเตะทางทิศตะวันออก จังหวัดมิยางิทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และจังหวัดยามางาตะทางทิศใต้
จังหวัดอากิตะมีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ 181 กิโลเมตร และตะวันออกจรดตะวันตก 111 กิโลเมตร มีภูเขาโออุเป็นหลักเขตจังหวัดทางธรรมชาติทางทิศตะวันออก และมีภูเขาเดวะทอดตัวขนานกันในตอนกลางของจังหวัด มีคาบสมุทรโองะเป็นจุดเด่นบริเวณชายฝั่งของจังหวัด ภูมิอากาศมีอากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะในบริเวณที่ห่างไกลชายฝั่ง
การปกครอง
• ผู้ว่าราชการ : โนริฮิซะ ซาตาเกะ
พื้นที่
• ทั้งหมด 11,612.11 ตร.กม. (4,483.46 ตร.ไมล์)
• อันดับพื้นที่ : 6 ของประเทศ
ประชากร
• ทั้งหมด 1,106,050 คน
• อันดับ 37 ของประเทศ
ดอกไม้
• ฟูกิ (Petasites japonicus)
ต้นไม้
• อากิตะซึกิ (Cryptomeria japonica)
เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจยังคงประกอบอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่น การเกษตร การประมง และป่าไม้ อากิตะมีชื่อเสียงในเรื่องสาเก เป็นเหตุทำให้คนหนุ่มสาวนิยมออกเดินทางไปประกอบอาชีพในต่างพื้นที่ เช่น โตเกียว และเมืองใหญ่อื่น ๆ เป็นจังหวัดที่ปลูกข้าวได้เนื่องจากอุดมไปด้วยน้ำที่มีคุณภาพดี ฟุคุชิมะภาคภูมิใจในอุตสาหกรรมเหล้าสาเกหลัก (ไวน์ข้าว) อันรุ่งเรืองของตนเอง ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ลูกพีช, แอปเปิ้ล และผลไม้ชนิดอื่นๆ สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ คุณยังสามารถลิ้มรสอาหารที่สดใหม่จากทะเลและฟาร์มท้องถิ่นได้ทุกประเภท เช่น เส้นราเม็ง, เส้นโซบะ, มิโซะ (น้ำถั่วเหลือง), เนื้อดำญี่ปุ่น และอาหารทะเลที่สดใหม่
สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวใน “อาคิตะ”
ย่านชุมชนซามูไรเมืองคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai District)
คะคุโนะดาเตะเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้านได้ฟรี โดยเฉพาะบ้านอาโอยากิ ที่มีอาคารหลายหลังที่ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และพิพิธภัณฑ์นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประเพณี วิถีชีวิตของซามูไรแห่งเมืองคาคุโนะดาเตะ กับบ้านอิชิกูโระ ที่จะมีพื้นที่เล็กกว่าบ้านอาโอยากิ ภายในจะจัดแสดงเสื้อผ้าและเสื้อเกราะซามูไร รวมถึงภาพวาดทางกายภาพ มี 2 หลังที่ถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
การเดินทางจากสถานี JR Kakunodate เดินประมาณ 20 นาที หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที โดยย่านชุมชนจะเริ่มจากสี่แยก Yoko Machi ขึ้นไป
นิวโตะออนเซน (Nyuto Onsen)
แหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังท่ามกลางขุนเขาที่เป็นที่นิยมของซามูไรในยุคนั้น นั่นคือ นิวโตะออนเซน หรือน้ำพุร้อนสีน้ำนมที่มีลักษณะขุ่นจากแร่ธาตุจำนวนมากที่ผสมในน้ำนั่นเอง เป็นแหล่งเรียวกังออนเซนในภูเขาฝั่งทิศตะวันออกของจังหวัดอากิตะในอุทยานแห่งชาติโทวาดะ ฮาจิมังไท (Towada Hachimantai National Park) เรียวกังแต่ละแห่งค่อนข้างเรียบง่ายเป็นสไตล์ดั้งเดิม และเปิดให้บริการมามากกว่า 300 ปี มีทั้งหมด 8 แห่ง โดยเรียวกังสุรุโนยุ (Tsurunoyu) เป็นออนเซนในนิวโตะที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุด นอกจากนั้นก็มี สุรุโนยุออนเซน ยามาโนยาโดะ (Tsurunoyu Onsen-Yamanoyado), คุโรยุออนเซน (Kuroyu Onsen), ทาเอโนยุออนเซน (Taenoyu Onsen), งานิบะออนเซน (Ganiba Onsen), โองามะออนเซน (Ogama Onsen), มาโงโรคุออนเซน (Magoroku Onsen), และคิวคามูระนิวโตะออนเซนเคียว (Kyukamura Nyuto Onsenkyo) ว่ากันว่าน้ำแร่ของที่นี่มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ช่วยรักษาโรค บำรุงสุขภาพ มากกว่า 10 ชนิดกันเลยทีเดียว
การเดินทางขึ้นรถไฟ JR East ไปลงที่สถานี Tazawako จากนั้นต่อรถบัส Ugo Kotsu มุ่งหน้าไปยัง Tazawako Lake และลงที่ป้าย Tazawa Lake Shore
รถไฟชมธรรมชาติสายอะคิตะ ไนริคุ จูคัน (Akita Nairiku Jukan Railway)
รถไฟสายไนริคุ จูคันวิ่งผ่านตอนกลางของจังหวัดอาคิตะ จากสถานีทาคาโนสุ ไปยังสถานีคาคุโนดาเดะ เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากโดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูร้อน ที่มาชมความสวยงามของศิลปะบนท้องทุ่งนาที่เรียกว่าทันโบะอาร์ต (Tanbo Art) ที่จะมีประจำทุกปี แต่ละปีจะเปลี่ยนไปตามไอเดียของผู้ออกแบบ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลเป็นฝีมือของเด็กนักเรียนในพื้นที่นั้นเอง
การเดินทางจากรถไฟ JR East ไปยังสถานี Kakunodate หรือจากรถไฟ JR Akita Shinkansen ก็ได้เช่นกัน ถ้าเพื่อนๆเดินทางโดยรถยนต์ ให้ใช้ทางด่วน Akita Expressway เพื่อไปยังทางเชื่อม Noshiro Minami IC หรือทางเชื่อม Kyowa IC
พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ (Namahagekan)
นามาฮาเกะ เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอาคิตะ คนในสมัยก่อนเชื่อว่านามาฮาเกะหรือยักษ์พวกนี้จะถูกส่งมาจากเทพเจ้าป่าเขาเพื่อให้ปัดเป่ากำจัดสิ่งชั่วร้ายให้กับคนในหมู่บ้าน ซึ่งมีการทำเป็นเทศกาลคือจะให้ชายหนุ่มในหมู่บ้านสวมหน้ากากยักษ์และคลุมตัวด้วยเสื้อฟาง ถือมีดกับกระบองแล้ววิ่งไปตามหมู่บ้านเพื่อหลอกเด็กที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่
ในปัจจุบันนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับนามาฮาเกะ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงวิธีทำเสื้อคลุมฟาง หน้ากายักษ์ มีโรงหนังเล็กๆดูความเป็นมาของนามาฮาเกะ และสามารถลองสวมชุดนามาฮาเกะถ่ายรูปได้อีกด้วย หรือะถ่ายกับรูปปั้นก็ได้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ที่เมืองโอกะ จังหวัดอาคิตะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถเข้าไปชมได้
เวลาทำการ: 08.30 น. – 17.00 น.
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 540 เยน เด็กวัยประถม มัธยมต้น/ปลาย 270 เยน
การเดินทาง ขึ้นรถไฟ JR สาย Oga ไปลงที่สถานี Hadashi นั่งแท็กซี่ต่ออีกประมาณ 15 นาที
พิพิธภัณฑ์คามาคุระ หรือคามาคุระคัง (Kamakurakan)
เทศกาลโยโคเตะ คามาคุระ มีมายาวนานประมาณ 400 กว่าปี จัดขึ้นในวันที่ 15 – 16 กุมภาพันธ์ของทุกปีทั่วทั้งเมืองโยโคเตะ จังหวัดอาคิตะ โดยการสร้างกระท่อมน้ำแข็งที่มีขนาดสำหรับคนประมาณ 3 – 4 คนมานั่งรอบกองไฟเล็กๆ มีแท่นบูชาสลักติดไว้บนผนังน้ำแข็งเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งน้ำ และจะมีเด็กๆมาพูดเชิญชวนว่า “ไฮเตะตันเส (ขอเชิญเข้ามาในคามาคุระ)” พร้อมกับแจกอะมะสาเก (เหล้าหวาน) และโมจิ (เค้กข้าว)
เวลา: 06.00 น. – 21.00 น.
การเดินทางลงรถไฟ JR ที่สถานี Yokote เดินประมาณ 10 นาที
สวนสาธารณะเซนชู (Senshukouen)
สวนสาธารณะประจำจังหวัดอาคิตะ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยงามมากมายอย่างต้นซากุระและต้นสึสึจิ หากเดินทางมาช่วงเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม จะเป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียงและความสวยงามมากแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งปราสาทคุโบตะมาก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะและภายในสวนยังมีศาลเจ้าและรูปปั้นของ Yoshiaki Satake ผู้ปกครองดินแดนและเป็นเจ้าของปราสาทคุโบตะแห่งเมืองอาคิตะนี้ด้วยค่ะ แถมบริเวณรอบข้างยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่น มีป้อมโอซุมิยางุระ ที่เคยใช้เป็นที่เก็บอาวุธและหอสังเกตการณ์ของปราสาทมาก่อน แต่ในปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวิติศาสตร์ความเป็นมาของอาคิตะซึ่งเราสามารถมองเห็นวิวเมืองได้แบบพาโนรามาเลยค่ะ
ศาลเจ้าอะคะกะมิ โกะชาโดะ (Akagami Goshado)
ศาลเจ้าแห่งนี้มีบันไดหิน 999 ขั้นที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าถูกสร้างสร้างขึ้นโดยยักษ์หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า นามาฮาเกะ 5 ตนซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ และเชื่อว่าที่นี่เป็นจุดกำเนิดตำนานยักษ์นามาฮาเกะ
หินก็อตซิลล่า (Gojiraiwa)
เป็นหินที่มีรูปร่างคล้ายกับก็อตซิลล่า ถ้าไปดูตอนเย็นจะคล้ายก็อตซิลล่ากำลังพ่นไฟเลยค่ะ แถมเจ้าหินก็อตซิลล่านี่ก็ได้ออกรายการทีวีทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเยอะเลย อีกไม่นานก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนมาอย่างล้นหลาม อยู่ที่แหลมชิโอเซะ (Shiose – Saki) เมืองโอกะ จังหวัดอาคิตะ เพื่อนๆคนไหนอยากถ่ายกับก็อตซิลล่าก็อย่าลืมไปกันนะคะ
โอยาซุเคียว ไดฟุนโต (Oyasukyo Daifunto)
เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง มีอีกชื่อหนึ่งว่า “จิโกคุกามะ” ซึ่งหมายความว่า “หม้อนรก” เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีไอน้ำพ่นขึ้นมาตามซอกหินส่งเสียงฟู่ฟู่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่หาชมได้ยาก และบริเวณรอบๆก็มีออนเซนถึง 11 บ่อเลยค่ะ เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคต่างๆได้ด้วยนะ ถ้าไปตามช่วงใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีหรือหน้าหนาวก็ชมความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบได้
นอกจากจังหวัดอาคิตะจะมีพันธุ์น้องหมาที่ทุกคนรู้จักก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้เกือบ 100% ถ้าคนรักธรรมชาติถ้าได้ไปเยือนสักครั้งนึงก็จะรู้สึกประทับใจและมีความสุขไปกับสถานที่ที่มีทั้งประวัติศาสตร์มากมายหรือความสวยงามของธรรมชาติที่จะเปลี่ยนแปลงกันไปตามฤดูทั้ง 4 ทำให้มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ณ จังหวัดอาคิตะแห่งนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น